4 การปรับในยุค Covid-19 ปรับธุรกิจอย่างไรให้อยู่รอด?
ท่ามกลางการเเพร่ระบาดของโรค Covid-19 ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงครั้งยิ่งใหญ่ของพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับ New Normal อาทิ การสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกไปพื้นที่สาธารณะ การเว้นระยะห่าง Social Distancing รวมไปถึงการงดออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น ดังนั้นผู้ประกอบการเเละธุรกิจต่างๆจึงมีความจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับกระเเสสังคม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หากเจ้าไหนสามารถปรับตัวได้เร็วกว่า เข้าถึงผู้บริโภคมากกว่า ก็จะสามารถดำเนินธุรกิจท่ามกลางวิกฤตนี้ไปได้ การปรับนั้นแบ่งออกเป็น 4 การปรับตามเเต่ละสถานการณ์ธุรกิจ โดยเเบ่งออกเป็น การปรับขนาด, การปรับความคิด, การปรับให้ยืดหยุ่น, และการปรับการจัดสรร
Rescale, Rethink, Resilience and Reallocate
.
1. ปรับขนาด : COVID-19 ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ให้มีความต้องการใหม่ๆ อันส่งผลต่อธุรกิจหลายๆธุรกิจ โดยเฉพาะสายสุขภาพเเละสายเทคโนโลยีที่จะต้องเผชิญกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มใหม่จำนวนมากภายในชั่วข้ามคืน สำหรับธุรกิจเหล่านี้จำเป็นต้องมีการปรับขนาดเเผนธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการจำนวนมากของลูกค้า เเละการปฏิรูปองค์กรในระยะสั้นเพื่อเข้าสู่เเผนธุรกิจใหม่ที่ยั่งยืน ยกตัวอย่าง แอพพลิเคชั่น ZOOM แพลตฟอร์มการประชุมในรูปเเบบวีดีโอที่มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นเเบบก้าวกระโดดจาก 10 ล้าน สู่ 300 ล้านในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ แม้ว่าในช่วงเเรกจะมีติดปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวเเละความปลอดภัยในการใช้งานอยู่บ้าง เเต่สุดท้าย Zoom ได้ร่วมมือทางกลยุทธ์ร่วมกับ Oracle เพื่อขยายฐานโครงสร้างระบบคลาว์ให้การส่งข้อมูลรวดเร็ว เเละมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
.
2. ปรับความคิด : เมื่อแผนธุรกิจถูกคุกคามด้วยวิกฤตโควิด 19 จึงมีความจำเป็นต้องทบทวนเเผนใหม่เพื่อให้เเข็งเเกร่งมากยิ่งขึ้นระยะยาว สินค้า, ผู้บริโภค, เเละช่องทางการจัดจำหน่าย ต้องหันเข้าสู่ช่องทางดิจิตอลเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในรูปแบบใหม่ ยกตัวอย่าง Buckingham Palace Gin เนื่องจากรายได้จากการท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักรได้รับผลกระทบอย่างหนัก พระราชวังจึงเปิดตัวเหล้า Gin ที่เก็บจากพฤกษศาสตร์ 12 ชนิดที่คัดเลือกมาจากบริเวณพระราชวังบักกิงเเฮม
.
3. ปรับให้ยืดหยุ่น : หลายๆธุรกิจพยายามรักษาตัวให้อยู่รอดเพื่อที่จะรอเวลาฟื้นตัวได้ในภาวะปกติ อันเนื่องจากความต้องการของลูกค้าที่ยังคงอยู่ เช่น ร้านอาหาร, สายการบิน, เเละโรงเเรม กลุ่มธุรกิจเหล่านี้จึงต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้อยู่รอดก่อนจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น เครือร้านอาหารจีน Yum! ที่ทำสินค้าเป็นชุดทำอาหารเเละรับงานจัดเลี้ยงในช่วงล็อกดาวน์ หรือ Pizza Hut ที่ขายเนื้อสเต็กพร้อมสูตรปรุงอาหารให้ลูกค้าได้ซื้อกลับไปทำที่บ้านเพื่อเพิ่มรายได้
.
4. ปรับการจัดสรร : สำหรับบางองค์กรที่เเผนธุรกิจยากเกินกว่าที่จะแก้ไข เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปตลอดกาล หรือสินค้าเเละบริการไม่สามารถเติมเต็มความต้องการได้อีกต่อไป ดังนั้นการจัดลำดับความสำคัญ โดยมุ่งเน้นไปหาสิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เเละตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ไม่ใช่เรื่องแง่ลบเสมอไป มักถูกมองว่าเป็นโอกาสในการตัดเนื้อร้ายออก ให้องค์กรกว่ามาเเข็งเเรงกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น สายการบิน NokAir ที่ตัดสินใจปิดตัว NokScoot ธุรกิจที่ไม่ได้ทำกำไร เพื่อให้ NokAir ลดหนี้และหันมาสนใจกับตลาดภายในประเทศ
.
ขอขอบคุณบทความ How to ride the post-Covid wave จาก Bangkokpost